วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สเก็ต สุดยอดกิจกรรมสำหรับพัฒนาการเด็ก ตอน 1

                  ที่ผ่านมามีผู้ปกครองหลายท่าน ถามผมว่า เล่นสเก็ต มันดียังไง มันมีอะไรซ่อนอยู่ ด้วยความแปลกใจ เพราะที่ผ่านมาเด็กแทบไม่ยอมเล่นกีฬา หรือเล่นมาไม่รู้กี่อย่างแต่ก็เลิกไปหมด แต่กับสเก็ตเด็กขอเล่นแล้วเล่นอีก เด็กอีกหลายคนมีสมาธิ นิ่งขึ้น มีระเบียบในตัวเองมากขึ้นโดยอัติโนมัติ จากที่ดูเป็นเด็กซน (hyperactive) สมาธิสั้น (short attentions span) กลับมากลายเป็นเด็กปกติ


ผมจะจำแนกประโยชน์ของสเก็ต ให้ศึกษากัน เป็นหัวข้อหลักๆก่อน

ส่วนรายละเอียด ผมจะแยกทำเป็นแต่ละหัวข้อให้อีกที ดีไหมครับ


แต่ก่อนจะพูดถึงประโยชน์การเล่นสเก็ต ที่ผมเอามาปรับใช้กับเรื่องพัฒนาการ   เรามาว่ากันถึง สาเหตุปัญหาด้านพัฒนาการ ของเด็กและเยาวชนกันก่อน เพราะหากว่า สาเหตุจริงๆยังไม่ถูกแก้ไข แม้จะมีการช่วยเหลือที่วิเศษแค่ไหน ปัญหาเดิมๆที่เคยมี ก็จะวนกลับมาเหมือนเดิม


ไม่พูดยืดยาว ผมสรุปสั้นๆง่ายๆว่า

ปัญหาของเด็กทั้งหมดเกิดจากพ่อแม่ครับ  สำหรับรูปแบบ ผมทำให้เห็นภาพง่ายๆ เป็น 2 ปัจจัย

        อย่างแรก ปัจจัยภายใน ผมยกเป็น โรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธ์ุ การหยุดหายใจระหว่างคลอด โภชนาการระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งตรงส่วนนี้ผมถือว่า ไม่มีใครอยากให้เกิด และบางเรื่องเป็นเรื่องเกินควบคุม หากเกิดขึ้นแล้ว คงต้องทำใจ แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ 2 ที่จะตามมา ก็คือสิ่งที่พ่อแม่ในกลุ่มแรก ต้องเข้าใจและรับมือต่อไป

        ปัจจับที่สอง คือปัจจัยจากการเลี้ยงดู สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุที่ผมสรุปว่า ปัญหาเกิดจากพ่อแม่ครับ มันเป็นความขัดแย้งภายในตัวพ่อแม่เอง ทั้งจากการคิดไปเอง เข้าใจผิดไปเอง หรือมีทัศนคติที่ถูกปลูกฝังจากรุ่นก่อนมาอีกที  ลองนึกภาพตามผมไปนะครับ

เด็กนั้นสิ่งที่ติดตัวเค้าออกมา มีเพียงสัญชาติญาณการเอาชีวิตรอดตามธรรมชาติเท่านั้น แต่สิ่งที่จะไปหล่อหลอมเค้า คือการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม พ่อแม่เป็นต้นแบบ บางคนอาจแย้งว่า เลี้ยงแบบไหนมันก็โต ใช่ครับ การเลี้ยงดูที่ผิด  มันสามารถเลี้ยงให้เด็กโตได้ครับ เพราะแค่เอาข้าวใส่ปากทุกวัน มันก็โต แต่นั่นมันเป็นเรื่องกายภาพ แต่เค้าจะโตมาเป็นคนยังไง มันก็อีกเรื่องนึงครับ


สรุปปัญหาพัฒนาการที่มาจากพ่อแม่

6. ไม่ยอมรับความจริง
1. พ่อแม่ไม่รู้จักลูกตัวเอง
2. พ่อแม่มีทัศนคติว่า ทำให้ลูก ทุกอย่างๆ คือรักลูก
3. เลี้ยงลูกด้วยความกลัว และการห้าม  เลี้ยงลูกให้หนีจากความเป็นจริง
4. พ่อแม่คิด และเลือกทุกอย่างแทนลูก
5. ทัศนคติของพ่อแม่ทุกเรื่องย่ำอยู่กับที่ บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วเป็นวินาที ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน และหลงทางเรื่องการศึกษา


ผมเขียนไม่ผิดครับ ผมเอาข้อ 6 ไว้ก่อน เพราะสำหรับผมแล้ว มันสำคัญที่สุด ถ้าเราไม่ยอมรับ เราก็จะไม่แก้ เป็นธรรมชาตินะครับ ทุกอย่างจึงเริ่มต้นด้วยการยอมรับเสมอ

ไว้คราวหน้าเรามาเจาะลงแต่ละข้อกันนะครับ ว่าทุกวันนี้เราเลี้ยงลูกกันแบบนี้อยู่ใช่ไหม





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความเห็นกันได้เต็มที่นะครับ