หลังย่างเข้าปีใหม่มา ก็ได้รับฝนโปรยปราย สำหรับชาว กทม ฝนนั้นเป็นดั่งอุปสรรคชิ้นโต เพราะฝนตกเมื่อไหร่ รถก็จะติดมหาโหด น้ำก็นอง วันนั้นผมเองก็ไปติดอยู่บนถนนกับเค้าด้วย น้ำมันหมดไป 1/4 ถังเลย พระเจ้า เพิ่งเติมมาแต้ๆ
ทิ้งเรื่องท้องถนน มาดูเรื่องพาหนะติดเท้าเรากันต่อดีกว่าครับ กับ roller skate review รุ่นถัดมา กับ silver x skate slalom
นี่ครับ silver x skate slalom พระเอกของเราในวันนี้ ไปดูกันเลยครับ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
สำหรับรองเท้าสเก็ต รุ่นก่อน turn pro ส่วนใหญ่หน้าตาจะออกมาแบบนี้ครับ คือ ตอนแรกนะ สเก็ตรุ่นเริ่มต้นก็จะหน้าตาคล้ายๆแบบนี้แหละ บูทก็ชั้นเดียว พอถัดมาดีขึ้น ก็จะเป็นสเก็ตแบบสองชั้น คือมีบูทแข็งๆหุ้มข้างนอก เหมือน dx slalom ทีนี้พอถัดจากรุ่นกลางๆ ขึ้นมา โรลเลอร์สเก็ตก็จะมีหน้าตากลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนคนครับ จากผอมไปอ้วน และอ้วนกลับมาผอมอีกที อิๆๆๆ
เหตุผลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่มีอะไรมากครับ ประสิทธิ์ภาพไง เพราะคนที่เริ่มเล่นสเก็ตเป็น มักจะเริ่มรู้สึกว่า สเก็ตตัวเองมันใหญ่ไปไหม เทอะทะไปไหม อะไรประมาณนี้ รองเท้าสเก็ตแบบเพรียวๆ ก็จะเริ่มกลับมาตอบโจทย์ตรงนั้นได้อีกครั้งครับ
roller skate frame
ในส่วนของเฟรม นั้นก็ยังคงเป็นเฟรมอลูมิเนียมอีกเช่นเคยครับ เรียกว่า สเก็ตในกลุ่มสลาลมนั้น หลักๆเลยต้องมีเฟรมเป็นอลูมิเนียมครับ แต่ก็ยังแอบเห็นหลายๆคู่เป้นเฟรมพลาสติกครับ ยังไงก่อนซื้อถ้าจะเอาให้คุ้มตังค์ก็พยายามดูที่เป็นเฟรมอลูมิเนียมนะครับ เพราะความแข็งแรงผิดกันลิบครับ สำหรับ silver x ก็มาในความยาวเฟรม 243mm และ 237mm ครับ
roller skate wheels
ในส่วนของล้อสเก็ต ก็ไม่หนีไปจากสเป็กสลาลมแน่ครับ กับล้อแบบ double wheel sizes สำหรับล้อสเก็ตที่จัดมาจากโรงงาน ก็จะใส่สีที่ไม่เหมือนกันมาให้ครับ ตรงกลางก็เป็นล้อ 80mm ด้านหน้าหลังก็เป็น 76mm ครับ ความแข็ง ก็ยังคงเป็น 85A เป็นสากล เหมาะสำหรับการเล่นบนพื้นเรียบ แอสฟัลท์ หรือกระเบื้อง เพราะจะหนืดนิดๆครับ
สำหรับด้านในทั้งในส่วนบูทสเก็ตและเฟรมก็จะเรียบๆไม่มีลวดลายอะไรมากมายครับ
roller skate boots
ในส่วนของบูทนั้น จะมีสิ่งที่พิเศษขึ้นมา ในรองเท้าสเก็ตแบบกึ่งๆโปร ก็คือมี toe strap หรือสายรัดด้านปลายเท้าครับ เหตุผมเพื่อสิ่งๆเดียว ก็คือความรู้สึกกระชับ ให้เท้าและรองเท้าสเก็ตเป็นเหมือนหนึี่งเดียวครับ เวลาควบคุมสเก็ตก็จะทำได้ดีกว่า สายรัดก็ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไร ก็แค่ตีนตุ๊กแก ดึงแคว่กๆ แค่เนี้ยะแหละ
สายรัด ด้านหน้าเท้าเป็นแบบคันโยกเพื่อปรับให้แน่น และเป็นปุ่มกดคลายล๊อก (ส่วนสีแดง ปลดล๊อกโดยการกดคลิปสีแดงลงพร้อมกัน ) แผงด้านหน้าจะลงมาปิดหน้าเท้า เพื่อกดให้สเก็ตแนบกับเท้าผู้เล่น
ด้านข้อเท้าก็ใช้ลูกเล่นแบบเดียวกันนะ ล๊อกและคลายล๊อกด้วยวิธีเดียวกันเน้อ
สำหรับลูกเล่นของสายรัดจะอยู่ฝั่งด้านใน ก็คือมีตำแหน่งให้ปรับได้อีก 3 ระดับด้วย ดูเอาตามขนาดข้อเท้าเอานะ ใครรู้สึกไม่กระชับ ก็ขยับรูเอา ก็ใช้ควงธรรมดานี่แหละ
สายรัดในส่วนหน้าเท้าก็สามารถปรับได้เช่นเดียวกัน แต่จะเยอะกว่า คือปรับได้ 4 ระดับครับ
ได้เวลาเปลือยบูทสเก็ตแล้ว หลังจากถอดเฟรมออก ก็จะได้บูทสเก็ตหน้าตาเยี่ยงนี้
ให้ดูกันอีกมุมครับ
อีกมุมนึง จากด้านหน้าครับ
จุดสำคัญคือจะพามาดูอันนี้ครับ รูติดตั้งเฟรมนั้นเอง สำหรับด้านหน้า ก็มีรูติดตั้ง 3 ตำแหน่ง ด้านหลัง 1 ตำแหน่ง ส่วนตัวเฟรมเองก็ยังมีช่องให้ขยับเพิ่มได้อีก
นี่เป็นชุดขับเคลื่อนของสเก็ตที่ถอดออกมาครับ ในส่วนนี้จะมีจำนวนชิ้นส่วนอะไหล่เท่าๆกัน ก็คือมีแกนล้อ ลูกปืนสองตลับ น๊อตยึดล้อ เท่านี้แหละครับ
ดูกันชัดๆกับเฟรมของ silver x ครับ
สรุปคุณสมบัติของรองเท้าสเก็ตแบบสลาลม silver X
1.รองเท้าสเก็ตสลาลมสำหรับกึ่งโปร (semi pro skate slalom )
2.จำนวนชั้นของบูท 1 ชั้น
3.เฟรมอลูมิเนียมขนาด 237 และ 243mm
4.จัดล้อแบบสลาลมแล้ว
5.ลูกปืน abec7
7.มีระบบล๊อก 3 จุด เพื่อความแน่นกระชับของสเก็ตในขณะเล่น
special features
- มี side pad
- มี toe strap
- slalom ready
- ปรับเพิ่มลด ตำแหน่งสายล๊อกได้
- ถอดเฟรมได้
- ปรับตำแหน่งเฟรมได้
- น้ำหนักเบา
สำหรับใครที่มองสเก็ตที่เพรียวๆ น้ำหนักไม่สูง เหมาะสำหรับเล่นสเก็ตสลาลม ดูคมเข้ม ราคายังไม่ถึงหมื่น ก็ลองรับ silver X ไว้พิจารณาครับ
สเก็ตเรดดี้
blog สำหรับคนรักสเก็ต facebook อัพเดทเรื่องราวชาวสเก็ต ศูนย์รวมรองเท้าโรลเลอร์สเก็ตคุณภาพ SPP
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความเห็นกันได้เต็มที่นะครับ