นับย้อนจากวันนี้กลับไป ก็ 8 ปีแล้วครับ ที่ีชีวิตผมมีเจ้าสิ่งที่เรียกว่า สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด ก็ตามแต่จะถนัดเรียก เข้ามาเกี่ยวข้องในแทบทุกด้านของชีวิต
สิ้นเสียงกรีดร้องกังวาล ของเด็กๆกลุ่มที่มีองค์มาสถิตย์ประจำกาย เป็นเด็กพิเศษที่ทางการแพทย์พร้อมใจกันมอบยศให้ว่า เป็นเด็กออทิสติกนั้น ทำเอาร่างกายผมแทบขยับไม่ได้หลังหมดงานในแต่ละวัน
กว่า 5 ปีในโรงพยาบาล ที่ผมทำหน้าที่ให้โปรแกรมการรักษา เพื่อปรับพัฒนาการและพฤติกรรมให้กับเด็กๆกลุ่มเหล่านี้ ผมคิดว่า ผมเองก็คงต้องหาวิธีรักษาตัวเองบ้างแล้ว เนื่องจากการอยู่ในสภาพการณ์แบบนั้นซ้ำๆ ต้องมีวิธีการชาร์ทแบตตัวเอง ไม่งั้นผมคงเดี้ยงก่อนวัยอันควรเป็นแน่
หลังจากลี้ภัยไปดูไบ เอ้ยย สิงคโปร์ ผมก็ได้ของที่ผมเคยใฝ่ฝันแต่เด็ก แต่จนด้วยทรัพย์ เลยได้แต่ฝัน นั่นคือรองเท้าสเก็ต เบ็ดเสร็จ 18,000 บาท ลอยจากกระเป๋าผมไป
ตอนนั้นต้องถือว่าสุดยอด ด้วยราคาที่แทบจะแลกมอเตอร์ไซค์มาได้แล้วครึ่งคัน ถ้าเทียบกับสเก็ต HADN ที่ผมทำเอง ของผมแจ๋วกว่าครับ แหะๆ แต่ยังไงซะ ก็เต็มเติมฝันผมจนได้
หลังจากวันที่ผมรับเอารองเท้าติดล้อเข้ามา ชีวิตผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สมัยไปแข่งงาน WSC SINGAPORE 2008 นู่นแหละ |
8 ปีนับจากวันนั้น มีหลายอย่างมากมายเกิดขึ้นในระหว่างทางเดิน จากคนเล่นสเก็ต ไปเป็นนักกีฬา ไปเป็นโค้ชสอนสเก็ตให้เด็กๆมากมาย เปิดร้านขายสเก็ต SPP เคยจัดงานแข่ง เป็นทั้งผู้ผลิตโรลเลอร์เบลดด้วยแบรนด์ HADN ของผมเอง
แบรนด์ที่ผมภาคภูมิใจ ถ้าใครได้ใช้จะรู้ว่าคุ้มค่าแค่ไหน |
มีทีมฝึกสอน มีทีมธุรกิจเล็กๆของผม มีร้านสาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด และเราเริ่มขยายไปในส่วนของไอซ์สเก็ต ซึ่งได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งมาช่วย นี่คือทางเดินที่ไม่คาดฝัน แต่ผมรู้ได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกเรื่องที่เราทำด้วยใจ มันมักจะมีการเติบโตไปอย่างไม่คาดคิดเสมอ ใจที่รักการเล่นสเก็ต และอยากให้ทุกคนได้มีโอกาส ได้เล่น ได้เรียนกับครูดีๆ ได้มีสเก็ตคุณภาพดีๆใช้ ในราคาพอเหมาะ
ผมเคยเปิดร้านสเก็ตด้วยนะ บนยูเนี่ยนมอลล์ ใครไปทันบ้าง อิๆๆ |
เพราะเป้าหมายผมทำเพื่อความสุข อยู่บนธุรกิจที่มีคุณธรรม ทำแบบนักธุรกิจไม่ใช่พ่อค้า ที่หวังแต่กำไร เมื่อสบโอกาสก็จะคืนสิ่งที่ผมได้รับมาคืนสู่สังคมเป็นระยะ ในรูปแบบต่างๆ
ผมชินและชอบกับการอยู่กับเด็กๆ และก็คงจะเป็นอย่างนี้จนกว่าผมจะไปจากโลกกลมๆใบนี้ |
ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เด็กและเยาวชนของเราถูกปิดกั้นศักยภาพในด้านต่างๆมาโดยตลอด และผมมองลึกถึงประโยชน์ของสิ่งรอบตัว เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดการพัฒนาเยาวชนเหล่านั้น สเก็ตคือสิ่งที่ผมเลือก มันสามารถให้ประโยชน์มากมายอย่างคาดไม่ถึง ทั้งในการสอนเรื่องความเชื่อมั่น ความคิดด้านบวก การปรับพัฒนาการ รวมถึงให้ผลในการรักษาเรื่องพัฒนาการได้อีกด้วย และนี่คือทางเดินที่ผมจะก้าวต่อไป
SKATE IS FUN
ณัฐวัฒน์ ศิลป์ปภัสร์ ( ครูเสก )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความเห็นกันได้เต็มที่นะครับ