คำว่า "ความสำเร็จ" ในการเล่นสเก็ต (how to succeed playing roller skate)หมายถึงอะไร ผมตีความในแง่สเก็ตหลายๆแบบดังนี้นะครับ
- จากเล่นสเก็ตไม่เป็น ก็สามารถเล่นสเก็ตจนเป็น---> สำเร็จ
- จากเล่นสเก็ตพอได้ ก็สามารถเล่นสเก็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ---> สำเร็จ
- เล่นสเก็ตได้คล่องแคล่ว จนพัฒนาทักษะไปเล่นสเก็ตในแบบต่างๆ---> สำเร็จ
- เข้าใจหลักการเล่นสเก็ต จนสามารถถ่ายทอดทักษะสเก็ตให้คนอื่นได้---> สำเร็จ
- เล่นสเก็ต จนสามารถพัฒนาทักษะเป็นนักแข่งสเก็ตได้---> สำเร็จ
ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้แหละครับ คือการสร้างความคิดด้านบวกครับผม แต่ไม่ใช่หลอกตัวเองนะครับ บางคนเอาแต่คิดบวกแต่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง มันคือการหลอกตัวเองครับ
คนที่มองโลกบวก จะเห็นในส่ิงที่คนทั่วไปไม่เห็น จะสัมผัสถึงสิ่งที่คนอื่นไม่มีวันเข้าใจ และสามารถประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่งที่มุ่งหวัง |
ดังนั้น ความสำเร็จในการทำสิ่งใดๆ ไม่ได้มาวัดกันที่ว่าเราทำได้ก้าวเล็กหรือก้าวใหญ่ เพราะทุกๆก้าวที่เราทำได้ ถือว่าเป็นความสำเร็จด้วยกันทังนั้น ผมสรุปปัจจัยคร่าวๆ ถึงวิธีการที่จะทำให้เราเล่นสเก็ตเป็นได้เร็วมากครับ
1. ตั้งเป้าหมาย (focus)ความมุ่งมั่นไปที่จุดเดียว ว่าเราต้องเล่นสเก็ตให้เป็น--> เป้าหมายสูงสุด รู้จัก กฏของแรงดึงดูดไหมครับ (attraction laws) เชื่อสิ่งใด ศรัทธาสิ่งใด ก็จะได้สิ่งนั้น
2. ตั้งเป้าหมายย่อยในแต่ละวัน (set the skate short term goal) เช่นวันนี้ เราต้องยืนบนสเก็ตนิ่งๆได้ หรือเราต้องเริ่มเดินบนสเก็ตให้ได้ เป็นต้น อย่าโลภครับ คนเรามักจะตกม้าตายเพราะใจร้อนนะครับ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป รองเท้าสเก็ตมันไม่ชอบคนใจร้อนครับ ถ้าใจเร็ว สเก็ตมันจะฝากแผลให้เราในทันที ไม่เชื่อลองดูสิครับ
บอกกับตัวเองวันละนิด ว่าเราทำได้ๆๆๆๆๆๆ แล้วความสำเร็จจะมาถึงครับ |
3. โปรดจำไว้นะครับ ไม่ว่าเราจะทำเรื่องอะไรก็ตาม มันเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น ดังนั้น ไม่ต้องเอาใครมาเทียบกับเรา และก็ไม่ต้องเอาตัวเราไปเทียบกับเค้า เอาคนอื่นเป็นเป้าหมายได้ แต่ไม่เอามาเปรียบเทียบครับ การเล่นสเก็ต ก็คือเราเล่น คนอื่นจะเล่นสเก็ตเก่งกว่าเรามากมายแค่ไหน ก็ไม่เกี่ยว เป้าหมายเดียว คือเราต้องเล่นสเก็ตให้เป็น คนที่เก็บเอามาคิดก็ ตัวเรานี่แหละ คิดดี ก็มีแรงใจ คิดไม่ดี ก็ท้อถอย มันเป็นเรื่องในสมองของเราเองจริงๆแหละว่าไหม
4. จำไว้เลยครับ ว่า จะเด็กเล็กๆ วัยรุ่น คนโต อ้วน ผอม ชาย หญิง ผู้ใหญ่ทุกคนเล่นสเก็ตได้เหมือนกันหมดครับ อยู่ที่ใจล้วนๆครับ อย่าเอาอะไรมาเป็นเงื่อนไข เพราะมันไร้สาระมากครับ
ทีมสเก็ตสลาลมรุ่นตัวน้อยๆที่จะเป็นอนาคตต่อไปครับ |
5.พยายามจับทางที่ครูสอนสเก็ต ฟังเทคนิค หรือจุดสำคัญให้เข้าใจครับ แล้วจะจับทางสเก็ตได้เร็วมากๆ เชื่อไหมครับ วันนี้ที่ผมเล่นสเก็ตเป็นแล้ว ลองนึกย้อนไปวันแรกๆที่ผมหัดเล่นสเก็ต ผมก็เดินสองสามก้าวแล้วก็ล้ม อืมม มันไม่มีอะไรยากเกินไปจริงๆครับ
6. ให้จริงจัง แต่อย่าเครียดครับ เพราะสเก็ตเป็นอะไรที่สนุกมาก ให้จริงจังในการทำความเข้าใจ แต่เวลาไถให้ผ่อนคลาย ยิ่งคุณผ่อนคลายมากเท่าไหร่ สเก็ตจะเล่นได้ง่าย และสวยมากขึ้นเท่านั้น เชื่อไหมครับ
เวลาเล่นสเก็ต ถ้าเราเกร็งจนตัวแข็ง เราจะล้มง่ายและล้มแรง แต่ถ้าตัวอ่อน ล้มก็จะเบาตามไปด้วยครับ นี่ผมซีเรียสนะครับ ทำเป็นเล่นไป ฮะๆๆๆๆๆ
เด็กมักจะมีรอยยิ้มเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์รอบตัวจะเป็นอย่างไร |
7. ให้ใช้ความรู้สึกในการเล่นสเก็ต แต่ห้ามใช้ความคิดครับ (play skate with happiness)หา ไม่เข้าใจหรอครับ อืมม เอางี้ สังเกตเด็กก็ได้ครับ เด็กหัดทำอะไรก็เป็นเร็วใช่ไหมครับ เพราะเด็กเรียนรู้ผ่านความรู้สึกสนุกครับ เค้าคิดแต่ว่าทำไงเค้าจะไถสเก็ตได้ ล้มเค้าก็ลุก วิ่งตามเพื่อนได้แล้วมันสนุก ก็สุขแล้ว เค้าไม่เคยมานั่งคิดถึงกระบวนการ หากคนเรานั่งกังวลถึงวิธีการว่ามันถูกมากน้อยแค่น้อย ผลที่ได้ คือ เกร็ง ครับ มันจะเรียนช้าโดยอัติโนมัติ
เชื่อไหมครับ มีบุคคลระดับอัจฉริยะ ทางศาสนา ทุกๆศาสนา ก็มีข้อคิดตรงกันในเรื่องนี้ ในเมืองไทยที่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ก็มีหลักคิดแบบเดียวกัน แต่ปัญหาคือคนส่วนใหญ่เข้าไปถึงหลักคำสอน ยึดติดอยู่ที่วัตถุตลอด (ทั้งที่เป็นหลักต้องห้าม)จึงข้ามสิ่งดีๆไปจนหมด
"ไม่มีหนทางแห่งความสุข แต่ความสุขนั้นแหละคือหนทาง "
พระพุทธเจ้า ท่านคงไม่รู้จักสเก็ต แต่ที่แน่ๆ ท่านรู้หลักการของการประสบความสำเร็จครับ
เมื่อเราเรียนรู้ และฝึกสเก็ตด้วยความรัก ความสุข ความผ่อนคลาย หนทางแห่งการประสบความสำเร็จ ก็แทบจะมาวางอยู่แทบเท้าแล้วครับ
"จงช่วยตัวท่านเองก่อน แล้วพระเจ้าจะทรงช่วยท่าน "
ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะได้ ถ้าคุณคิดว่า คุณทำไม่ได้ คุณก็จะทำไม่ได้
โลกนี้ก็เป็นไปตามกฏแรงดึงดูดแบบนี้แหละครับ ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรมอย่างที่คนไทยเรายึดถือแต่อย่างใดครับมันเป็นแค่ข้ออ้าง เท่านั้นเอง
หลักการ คิดแบบสำเร็จ ทำด้วยความสุข เป็นไปได้กับทุกๆอย่างที่เราอยากทำ อยากให้เป็น
คนเรามักชอบใช้ความคิดของเราเองตัดสินว่าสิ่งนั้น มีสาระ สิ่งนั้น ไร้สาระ จริงๆแล้ว โลกนี้ ไม่มีอะไรไร้สาระ แต่ไร้สาระอยู่ที่ความคิดเราเอง ที่ขาดความสามารถในการมองเห็น ประโยชน์ ที่ซ่อนอยู่ในทุกสรรพสิ่ง บนโลกนี้
ทักษะเหล่านี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการเรียนหนังสืออย่างหนัก เรียนพิเศษเอาเป็นเอาตาย หรือจบปริญญาด้วยเกียรตินิยม จากสถาบันไหน
แต่เกิดจาก การปล่อยให้ตัวเรามีพลังงานจินตนาการ นั่นเอง เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรถูกปลูกฝัง ไม่ควรถูกจำกัด จากการเลี้ยงดู ค่านิยม การศึกษา
เป็นสิ่งที่เด็กและเยาวชนทุกรุ่น จนถึงผู้ใหญ่ทุกยุคทุกสมัย ขาดแคลนเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความเห็นกันได้เต็มที่นะครับ